ผ่านประชุมเชิงวิชาการ การสร้างกลไก การออกแบบ และพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนการสอน
เพื่อพัฒนาสมรรถนะของผู้เรียนนอกระบบและตามอัธยาศัย จังหวัดเชียงใหม่
การดำเนินงานภาคีเครือข่ายขับเคลื่อนในระดับจังหวัด ได้ดำเนินงานเครื่องมือจากประชุมเชิงวิชาการ การสร้างกลไก การออกแบบ และพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนการสอนเพื่อพัฒนาสมรรถนะของผู้เรียนนอกระบบและตามอัธยาศัย จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีรายละเอียดดังนี้
ในการประชุมครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ในการจัดการเรียนการสอนต่อผู้เรียน กศน. การสร้างกลไก การออกแบบ และพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนการสอน เพื่อพัฒนาสมรรถนะของผู้เรียน กศน.จังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกัน เพื่อสร้างแนวทางการดำเนินงานร่วมกันเพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา ให้ทุกคนได้มีโอกาสเข้าถึงการศึกษาด้วยเทคโนโลยีอย่างเท่าเทียม โดยมีผู้เข้าร่วมการประชุมครั้งนี้ จากสำนักงาน กศน. จังหวัดเชียงใหม่ กศน. อำเภอ และ และทีมงานมหาวิทยาลัยฟาร์อีสเทอร์นจำนวนทั้งสิ้น 161 คน โดยมีผลการดำเนินงานดังนี้
(คลิปวิดีโอเป็นคลิปที่ใช้ในการเปิดก่อนเข้าสู่พิธีเปิดงาน แบ่งออกเป็น 3 ตอน ได้แก่ แนะนำมหาวิทยาลัยฟาร์อีสเทอร์น ผลงานของครู กศน. และบรรยากาศการทำงาน ณ ช่วงเวลาหนึ่ง)
การบรรยายพิเศษ ทิศทางการจัดกระบวนการเรียนการสอนผู้เรียน กศน. บนพื้นที่ชายขอบ
ดร.กิตติพัฒน์ สุวรรณชิน
อธิการบดีมหาวิทยาลัยฟาร์อีสเทอร์นกล่าวต้อนรับ
นางสาวทิพวรรณ เตียงธวัช
ผู้อำนวยการสำนักงาน กศน.จังหวัดเชียงใหม่ บรรยายพิเศษ
ภาพรวมการสร้างความร่วมมือ
สำนักงาน กศน. จังหวัดเชียงใหม่ อยู่ในช่วงการดำเนินงานภายใต้ พ.ร.บ.ส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต โดยยังคงสอดคล้องกับแนวทางการทำงานเดิมที่มีกรอบการดำเนินงาน 3 ส่วน ได้แก่ การศึกษางานขั้นพื้นฐาน การศึกษาต่อเนื่อง และการศึกษาตามอัธยาศัย โดยมี กศน. มีแนวทางการดำเนินงาน ดังนี้
มีแนวทางจัดสรรงบประมาณเพื่อให้ภาคีเครือข่ายเข้ามาร่วมเป็นผู้ขับเคลื่อนดำเนินงานในรูปแบบของภาคีเครือข่าย
การดำเนินงานในรูปแบบชุมชนเป็นฐาน โดยเชื่อมโยงกับข้อมูลแผนที่ 3 มิติ ที่ทาง กศน. ได้ดำเนินงาน
การใช้ข้อมูลจากฐานข้อมูล จากระบ DM-HACLC
แนวทางการขับเคลื่อนกลไก ภายหลังที่โครงการวิจัยสิ้นสุดลง โดยผู้อำนวยการ กศน. จังหวัดเชียงใหม่
การขับเคลื่อนงาน กศน.
กลไกที่สำคัญที่สุดคือ ครู กศน. ด้วยการขับเคลื่อนกับชุมชนเพื่อสร้างความเข้มแข็งของชุมชน โดยองค์ประกอบที่สำคัญได้แก่ หลักสูตร และสื่อการสอน ดังนี้
ครู : ครู กศน. ทุกท่านมีความสามารถ และสามารถสร้างสื่อการสอนแบบดิจิทัลคอนเทนต์ ดังจะเห็นได้จากผลงานจากการประกวดคลิปโครงการประกวดสื่อการเรียนการสอนแบบดิจิทัลคอนเทนต์ Content Creator Contest ทีมครู กศน. จังหวัดเชียงใหม่
หลักสูตร :
กรณีที่เป็นหลักสูตรแกนกลาง อยากให้มีการนำเสนอสื่อการสอนที่สอดคล้อง
หลักสูตรการศึกษาต่อเนื่อง ควรมีการพัฒนาหลักสูตรให้สอดคล้องกับบริบทชุมชน
แนวทางการจัดการศึกษา กศน. ในอนาคต
เอาข้อมูลที่มีอยู่ มาบริหารจัดการข้อมูลเพื่อนำมาใช้ในการพัฒนาแผนการดำเนินงานโดยละเอียด
พัฒนาแพลตฟอร์มกลางเพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการนำเสนอสื่อดิจิทัลคอนเทนต์ให้แก่ผู้เรียน
สร้างสรรค์งานใหม่ ที่สอดคล้องกับแนวทางของ พ.ร.บ.ส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต
สร้างชุมชนเข้มแข็งที่พึ่งพาตนเองได้
บรรยายสรุปผลการดำเนินโครงการวิจัย โดยหัวหน้าโครงการวิจัย
ผศ.ศราวุธ พงษ์ลี้รัตน์
บรรยายสรุปโครงการโดยภาพรวม
อ.ฐิติมา ญาณะวงษา บรรยายสรุปแนวคิด
S T U D E N T Model
ในการสร้างสื่อการสอนแบบดิจิทัลคอนเทนต์
บรรยากาศการ
ประชุมสรุปผลการดำเนินงาน
บรรยายแบบเล่าสู่กันฟัง บทบาทที่แตกต่างภายใต้เป้าหมายเดียว "การลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา"
ดร.ประภาภรณ์ คำโอภาส ผอ.กศน.เมืองเชียงใหม่ กล่าวถึงแนวทางความร่วมมือ
ในรูปแบบของภาคีเครือข่ายทางวิชาการร่วมกัน
ทีมนักวิจัยร่วมกับทีมกศน. เล่าสู่กันฟัง
ผ่านมุมมองการทำงานร่วมกัน
นายวิรัตน์ คงดี ศึกษานิเทศก์ชำนาญการพิเศษ สำนักงาน กศน. จังหวัดเชียงใหม่ ได้นำเสนอมุมมองแนวทางการต่อยอดแนวคิดจากการพัฒนา Digital Learning Platform
ประเด็นการนำเสนอแนวทางการจัดการเรียนรู้ด้วยดิจิทัล
การดำเนินงานในส่วนนี้เป็นการเล่าสู่กันฟัง ผลการดำเนินงานวิจัย โดยมุมมองระดับการบริหารและระดับปฏิบัติการมีมุมมองความคิดที่เหมือนกัน กล่าวคือ มองว่าเทคโนโลยีถือว่าเป็นประเด็นสำคัญในการจัดรูปแบบการเรียนสอน ทิศทางการสร้างสื่อการสอนควรเป็นไปในรูปแบบคลิปสั้นๆ ผู้สอนจะเปลี่ยนบทบาทเป็นผู้จัดการการเรียนการสอน ในขณะที่มุมมองของนักวิชาการมองว่า อาจารย์ควรต้องเปลี่ยนแปลงรูปแบบการสอนตามสถานการณ์เทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลง ควรดำเนินงานในรูปแบบของภาคีเครือข่ายร่วมกัน
ระหว่างการเสวนาทีมวิจัยได้รับเกียรติจาก นายวิรัตน์ คงดี ศึกษานิเทศก์ชำนาญการพิเศษ สำนักงาน กศน. จังหวัดเชียงใหม่ ได้นำเสนอมุมมองแนวทางการต่อยอดแนวคิดจากการพัฒนา Digital Learning Platform ด้วยการนำเอา Coding ไปใช้งานร่วมกับคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊คของครู ศศช. เพื่อนำไปใช้ในการเรียนการสอนในพื้นที่ นอกจากนี้ยังได้มีการจัดการประชุมแบบมีส่วนร่วมกับผู้เข้าร่วมประชุมด้วยการแลกเปลี่ยนประเด็น ปัจจัยใดที่จะสามารถสร้างรูปแบบการเรียนรู้ด้วยดิจิทัลเพื่อให้เกิดกระบวนการเรียนรู้ของผู้เรียน ซึ่งเป็นการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกันผ่านการประชุมได้อย่างเป็นรูปธรรม
การประกาศผลรางวัลการสร้างสื่อการสอนดิจิทัลคอนเทนต์
ผลการประกาศรางวัล คลิก
รางวัลการสร้างสื่อการสอนดิจิทัลคอนเทนต์ในระดับ “ยอดเยี่ยม”
ผลงานเรื่อง “การใช้ภาษาไทยในชีวิตประจำวัน” ทีม กศน.อำเภอฝาง
นายพิสุทธิ์ สันใจ
นายมงคล มูลอินต๊ะ
นางสาวิตรี ชะลอ
นางสาวเรืองนิตย์ สิ้นภัย
นางสาวสุวณา จาคา
รางวัลการสร้างสื่อการสอนดิจิทัลคอนเทนต์ในระดับ “ดีเยี่ยม”
ผลงานเรื่อง “การย้อมสีธรรมชาติ” ทีมกศน.อำเภอพร้าว
นายปรเมศว์ ป้องนานาค
นางสาวนันท์นภัส ไชยสวัสดิ์
นางวรนุช นันตาคำ
รางวัลการสร้างสื่อการสอนดิจิทัลคอนเทนต์ในระดับ “ดีเด่น”
ผลงานเรื่อง “เรียนรู้ภาษาอังกฤษกับพี่ปลา” ทีม กศน.อำเภอแม่แตง
นายชุมพล เบญจเมธ
นางสาวเรณู คงค้ำ
นายภีมพริษฐ์ กีรติกันย์กุล
นางสาวสิริรัตน์ เฉลิมรัฐชัชวาล
แนวทางความร่วมมือในการขับเคลื่อนการดำเนินงานร่วมกันในอนาคต
โครงการวิจัยเกิดขึ้นได้จากความร่วมมือจากผู้อำนวยการ กศน. จังหวัดเชียงใหม่ แนวทางจากแนวการดำเนินงานวิจัยจากศึกษานิเทศก์ชำนาญการพิเศษ การมีภาคีเครือข่ายร่วมกับกับกศน.อำเภอ และทีมวิทยากรจาก กศน. ร่วมกับทีมวิจัยจาก ม.ฟาร์อีสเทอร์น โดยผลการดำเนินงานทั้งหมดถือได้ว่าเป็นการวางรากฐานสำคัญ และเราจะดำเนินงานในฐานะภาคีเครือข่ายร่วมภายใต้แนวคิด Learning City แม้ว่าโครงการวิจัยจะสิ้นสุดลง แต่เราจะดำเนินงานร่วมกันในฐานภาคีเครือข่ายที่พร้อมจะเดินไปพร้อมกัน
ดร.ฉัตรทิพย์ สุวรรณชิน
รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยฟาร์อีสเทอร์น และหัวหน้าโครงการวิจัยย่อยเรื่องการสร้างกลไกความร่วมมือและการพัฒนาศักยภาพบุคลากรในสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย
ความพร้อมที่จะลุยด้วยกันต่อ !! ของทีม ม.ฟาร์ฯ และ ทีม กศน.
ดร. อมรวิชช์ นาครทรรพ ได้เคยกล่าวไว้ในตอนที่วันที่พวกเราเริ่มต้นทำงานวิจัยไว้ว่า "งานวิจัยจะต้องระวังไม่ให้การประชุมเป็นงาน Event แต่มันควรจะต้องเป็นพื้นที่การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกัน" ซึ่งวันนี้พวกเราได้พิสูจน์แล้วว่า การประชุมวิชาการที่พวกเราตั้งใจจัดขึ้นนั้น เป็นการประชุมที่มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ซึ่งกันและกันในภาคีเครือข่าย ซึ่งเป็นแรงกระเพื่อมที่สำคัญในการลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาได้อย่างเป็นรูปธรรมในพื้นที่ชายขอบ