ชุดโครงการวิจัยระบบสนับสนุนสังคมดิจิทัลเพื่อการเรียนรู้ทักษะจำเป็นพื้นฐานสำหรับผู้เรียนนอกระบบในพื้นที่ชายขอบ จังหวัดเชียงใหม่ เป็นการดำเนินงานเพื่อมุ่งเป้าผลสัมฤทธิ์ด้านการเข้าถึงองค์ความรู้ของผู้เรียนชายขอบเพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาได้อย่างเป็นรูปธรรม มีวัตถุประสงค์ ดังนี้
เพื่อพัฒนาแพลตฟอร์มดิจิทัลสังคมแห่งการเรียนรู้และอุปกรณ์พกพาสำหรับการนำไปสนับสนุนการสอนของผู้เรียนนอกระบบและตามอัธยาศัยในพื้นที่ชายขอบจังหวัดเชียงใหม่
เพื่อออกแบบและพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนการสอนในรูปแบบของดิจิทัลที่สอดคล้องกับบริบทของความก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยี และพฤติกรรมการเรียนรู้ของผู้เรียนในปัจจุบัน และเพื่อพัฒนาสมรรถนะของผู้เรียนนอกระบบและตามอัธยาศัย และ
เพื่อสร้างกลไกความร่วมมือและพัฒนาศักยภาพบุคลากรในสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย ให้มีความสามารถผลิตดิจิทัลคอนเทนต์ (Digital Content) ในรายวิชาที่ตนเองรับผิดชอบ
ใช้องค์ความรู้ทางด้านดิจิทัล งานกราฟิก งานมัลติมีเดีย ผลิตเป็นผลงานสื่อการสอนได้อย่างเป็นรูปธรรม ระเบียบวิธีวิจัยที่ใช้ ได้แก่ ออกแบบการวิจัยและพัฒนา เริ่มต้นจากการสัมภาษณ์เชิงลึกผู้ทรงคุณวุฒิและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย
(ผู้อำนวยการ กศน. และครูผู้สอน) ได้แก่ ข้อมูลบริบท สภาพปัญหา และความต้องการนำผลที่ได้มาออกแบบร่วมกัน ทำการทดลองเพื่อให้ได้ต้นแบบนวัตกรรมการเรียนรู้ ตลอดจนการประเมินและปรับปรุง ผลการวิจัยสามารถแบ่งออกได้เป็น 3 องค์ประกอบ ได้แก่
นวัตกรรมทางเทคโนโลยี Digital Learning Platform กล่องอุปกรณ์เพื่อสนับสนุนการเรียนการสอนในพื้นที่ชายขอบ ที่มีการวัดและประเมินผลกับผู้เรียนได้อัตโนมัติ
นวัตกรรมการเรียนรู้ STUDENT Model โมเดลการเรียนรู้ที่พัฒนาขึ้นจากทีมวิจัยที่ตกผลึกมาจากกระบวนการดำเนินงานวิจัย นำไปใช้เป็นแนวทางการสร้างสื่อการสอนแบบดิจิทัลคอนเทนต์ของครูกศน. เกิดการแลกเปลี่ยนแนวทางการดำเนินงานผ่านกิจกรรมต่าง ๆ ทำให้เกิดประสิทธิภาพในการจัดการเรียนส่งผลให้ผู้เรียนมีสมรรถนะตามวัตถุประสงค์ของเนื้อหาการเรียนรู้ประกอบด้วย Self-Directed Learning (แนวทางการออกแบบบทเรียนที่ส่งเสริม การเรียนแบบนำตนเอง) TPCK Technology Pedagogy Content Knowledge (วิเคราะห์และออกแบบการจัดการเรียนรู้โดยการบูรณาการเทคโนโลยี ศาสตร์การสอน และเนื้อหาสาระ) Upskill Reskill (พัฒนาทักษะเดิม เพิ่มเติมทักษะใหม่)
Design Digital Content (ออกแบบดิจิทัลคอนเทนต์) Elaboration & Evaluation (ขยายความรู้ และการประเมินผล) Nourishing (ดูแล ช่วยเหลือ) และ Tribe (ผู้เรียนชาติพันธุ์) 3) นวัตกรรมเชิงระบบ MCEP Model เป็นนวัตกรรมเชิงระบบกลไกความร่วมมือและการพัฒนาบุคลากร สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) MCEP ประกอบด้วย MOU เป็นการขับเคลื่อนกลไกด้วยการจัดทำ MOU ระหว่างผู้บริหารมหาวิทยาลัยฟาร์อีสเทอร์น และ กศน. จังหวัดเชียงใหม่ กิจกรรม Coaching & Mentoring เป็นการสร้างครูแกนนำ เทคนิคการสร้างสื่อการสอนแบบดิจิทัลคอนเทนต์ Embedded เป็นการลงพื้นที่เพื่อสร้างกระบวนการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกันในระดับปฏิบัติการ Policy เป็นการนำผลการวิเคราะห์งานวิจัยไปสู่แนวทางการจัดทำนโยบายให้เกิดสัมฤทธิ์ผลอย่างยั่งยืน โดยทุกองค์ประกอบเป็นการดำเนินงานที่เกื้อหนุนกันและกันเพื่อให้สามารถขับเคลื่อนนวัตกรรมเชิงระบบเพื่อการสร้างนวัตกรรมการเรียนรู้ได้อย่างเป็นรูปธรรม
บทสรุปการดำเนินงาน โครงการวิจัยระบบสนับสนุนสังคมดิจิทัลเพื่อการเรียนรู้ทักษะจำเป็นพื้นฐานสำหรับผู้เรียนนอกระบบในพื้นที่ชายขอบ จังหวัดเชียงใหม่ ตอน การประชุมเชิงวิชาการ การสร้างกลไก การออกแบบ และพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนการสอนเพื่อพัฒนาสมรรถนะของผู้เรียนนอกระบบและตามอัธยาศัย จังหวัดเชียงใหม่
วันที่ 16 ธันวาคม 2565 ณ ห้องประชุมออดิทอเรี่ยม มหาวิทยาลัยฟาร์อีสเทอร์น